Madrid de los Austrias 

part I

Puerta del sol

หากใครได้มาเยือนมาดริด เมืองหลวงของประเทศสเปนไม่ว่าจะฤดูใดก็ตาม ไม่ควรพลาดที่นี่เลยค่ะ นั่นก็คือ "มาดริดโซนเมืองเก่า" หรือที่เรียกเป็นภาษาสเปนว่า "Madrid de los Austrias" ซึ่งโซนนี้ก็จะรวมถึง Puerta del Sol กับ Plaza Mayor ด้วยค่ะ

>>>History<<

ที่มาของโซนนี้ขอบอกว่าเรื่องมันยาวมากกกก แต่จะสรุปให้ฟังสั้นๆละกัน5555

ราชวงศ์กษัตริย์ที่ปกครองสเปนปัจจุบันก็คือ ราชวงศ์บูร์บง (Borbón) แต่ย้อนกลับไปก่อนราชวงศ์นี้ก็จะเป็นกษัตริย์ราชวงศ์ฮับสบูร์กปกครอง ฮั่นแน่ คุ้นๆชื่อราชวงศ์กันมั้ยล่ะ ถ้าใครเคยไปเที่ยวแคว้นบาวาเรีย(Bayern) ของเยอรมนีหรือว่าเคยไปเที่ยวออสเตรียอาจจะคุ้นๆชื่อราชวงศ์นี้ เพราะว่าเป็นราชวงศ์ทางออสเตรียนั่นเองค่ะเจ้า ดังนั้นมาดริดโซนเก่าที่เหล่ากษัตริย์ฮับสบูร์กสร้างไว้เลยเรียกว่า Madrid de los Austrias นั่นเอง
ป.ล. มี Madrid de los Borbones ด้วยนะเออ
เรื่องวิชาการๆพอแค่นี้เถอะ เดี๋ยวคนอ่านจะเบื่อ เอาเป็นว่าเพราะสร้างโดยกษัตรย์ฮับสบูร์กนั่นแหละ บรรยากาศเลยคล้ายๆกับเมืองทางเยอรมนี ออสเตรีย แล้วเป็นราชวงศ์ก่อนหน้าปัจจุบัน เลยเป็นโซนเมืองเก่า

>>>Landmarks<<<

มาดูแลนด์มาร์คสำคัญของแถวนี้ดีกว่า

อย่างแรกเลยก็คือรูปปั้นหมีปีนต้นเชอร์รี่ป่า (El Oso y El Madroño) จริงๆแล้วรูปปั้นมันไม่ได้สูง แล้วคนก็เยอะมากบางช่วงเวลาระวังหาไม่เจอนะ

อีกอย่าง บางคนอาจจะสับสนว่าตกลงหมีมันปีนต้นอะไรกันเนี่ย เพราะภาษาอังกฤษเรียกต้นนี้ว่า Strawberry tree แต่มันไม่ใช่สตรอเบอร์รี่อย่างที่เรากินกันนะ รอผู้รู้มาตอบดีกว่า555 แต่เป็นตระกูลเบอร์รี่เชอร์รี่นี่แหละ แล้วรูปปั้นนี้สำคัญยังไงหรอ ถ้าอยากรู้ลองสังเกตฝาท่อตามถนนของมาดริดดู จะเห็นสัญลักษณ์นี้บ่อยมาก มันก็คือสัญลักษณ์ของเมืองมาดริดนั่นเอง ก็มีหลายคนก็ตีความไปต่างๆนานากัน บางคนก็บอกว่าจริงๆหมีเป็นตัวเมีย แสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ แต่ก็ไม่มีใครยืนยันคำตอบจริงๆได้หรอก บางคนก็บอกว่าพื้นที่ตรงมาดริดอาจจะเคยมีหมีกับต้นเชอร์รี่ป่าเยอะ ก็มีความเป็นไปได้นะ

มาต่อกันเลยดีกว่า ตรง Puerta del sol เนี่ย ถือเป็นหลักกิโลเมตรที่ 0 ของสเปนเลยนะ สเปนมีทางหลวงทั้งหมด 6 เส้นทางไปทิศทางของเมืองสำคัญๆ เช่น Santiago Compostela

แล้วทำไมตรงนี้ถึงต้องเรียก Puerta del Sol (ประตูพระอาทิตย์) เพราะแต่ก่อนเคยเป็นประตูเมืองเดิมนั่นเอง แล้วก็ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกที่พระอาทิตย์ขึ้น ต้องไปเหยียบกระเบื้องตรงนี้ด้วยนะ เขาจะได้รู้ว่ามาเหยียบมายืนที่มาดริดแล้วจริงๆ ถ้าจะถ่ายรูปเหยียบตรงนี้ หาไม่ยากเลยจ้า อยู่ตรงหน้าตึกสีแดงๆ (รูปอยู่ข้างบนๆ)

นอกจากนี้ยังมีรูปปั้น Carlos III ด้วยจ้า รูปปั้นใหญ่ๆที่ผู้ชายที่ขี่ม้านั่นแหละเขาเป็นใครน่ะเหรอ เขาก็เป็นกษัตริย์คนหนึ่งของสเปนน่ะสิ แต่เขาอยู่ราชวงศ์บูร์บงนะ เกี่ยวอะไรกับมาดริดโซนของฮับสบูร์กหรอ ก็เพราะว่าเขามีความสำคัญต่อมาดริดไงล่ะ เขาได้ฉายาว่าเป็น "el mejor alcalde de Madrid" ก็คือเป็น...จะแปลไทยว่าไงดีล่ะเนี่ย นายก พ่อเมืองที่ดีที่สุดของมาดริดละกัน

ร้านของหวาน ที่ขึ้นชื่อแถวนี้ก็จะเป็นร้าน La Mallorquina หาไม่ยากเลยค่ะ จากรูปปั้นหมี ตรงกลางเป็นรูปปั้น Carlos III ถัดไปก็จะเห็นร้านนี้แล้ว ส่วนรสชาติจะอร่อยหรือไม่ เดี๋ยวมีรีวิวบล๊อกหน้าแน่นอนจ้า

ต่อมาจะมีตึกที่อยู่ตรงใกล้ๆรูปปั้น Carlos III ชั้นล่างตึกจะเป็นร้านขายของมากมาย ที่น่าไปลองก็คือไอศกรีมร้าน Palazzo 

ถ้าหากมองบนตึกนี้จะเห็นป้าย Tío Pepe (ลุงเปเป้) ซึ่งเป็นยี่ห้อของบริษัทขายผลิตภัณฑ์ไวน์และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เก่าแก่ของสเปน

ที่ขึ้นชื่อมากของยี่ห้อนี้เห็นจะเป็น Sherry หรือ Jerez เป็นเครื่องดื่มที่มีชื่อเสียงของสเปนด้วย เป็นไวน์ประเภท Fortified wine

เพิ่มเติม ไวน์มีอยู่ด้วยกัน 3 ประเภท คือ 1.Table wine ที่เรานิยมดื่มกับมื้ออาหาร แอลกอฮอล์ต่ำสุดใน 3 ประเภทคือ 7-15 ดีกรี

2.Sparkling wine ไวน์มีฟอง แอลกอฮอล์ประมาณ 15-18 ดีกรี ที่เราคุ้นเคยกันก็คือแชมเปญ แต่ Sparkling wine ทุกชนิดไม่ได้เรียกว่าแชมเปญนะจ๊ะ ต้องเป็น Sparkling wine ที่ผลิตจากเมืองแชมเปญของฝรั่งเศสเท่านั้นถึงเรียกแชมเปญ ของสเปนเองก็มีชื่อเรียกไวน์ชนิดนี่ของสเปน นั่นก็คือ Cava
3. Fortified wine มีแอลกอฮอล์มากที่สุดในไวน์ทุกประเภท แอลกอฮอล์ระหว่าง 18-22 ดีกรี
อยากรู้ข้อมูลมากกว่าถามผู้รู้นะจ๊ะ เราก็ไม่ใช่นักดื่มหรือคอไวน์ซะด้วย
เดี๋ยวมีต่อ Part II  นะจ๊ะ